อัพเดทข่าว วิเคราะห์ทีมใน English League Championship 12BET 29/9/2554

วิเคราะห์ 24 ทีม ในศึก แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นใหม่

ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2011-12 ของศึก เอ็นพาวเวอร์ แชมเปี้ยนชิพ เราก็ขอวิเคราะห์ทั้ง 24 สโมสรในลีกดังกล่าว เพื่อให้ท่านได้ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกันบ้าง จุดแข็งหรือจุดอ่อนของพวกเขาคือสิ่งใด และจะมีความเป็นไปได้เช่นไรในอีก 10 เดือนนับจากนี้

บาร์นสลี่ย์

ผู้จัดการทีม: คีธ ฮิลล์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 17 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: นอกจากสต๊าฟโค้ชชุดใหม่ คือ คีธ ฮิลล์ กับ เดวิด ฟลิตครอฟท์ ซึ่งเคยทำผลงานยอดเยี่ยมสมัยอยู่ รอชเดล แล้ว บาร์นสลี่ย์ ก็ยังคว้าผู้เล่นเข้ามาใหม่อีก 8 คน เพื่อเปลี่ยนจากทีมที่เคยหนีตาย ไปเป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นเลื่อนชั้น และพวกเขาก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

จุดอ่อน: การเสียไปถึง 66 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน ฮิลล์ จึงต้องปรับแผงรับครั้งใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะหลังพวกเขาขาย เจสัน แช็คเคลล์ ให้ ดาร์บี้ เพื่อนร่วมลีก

กุญแจสำคัญ: ริคาร์โด้ วาซ เต อาจนำประสบการณ์เข้ามาช่วย แต่แนวรุกของพวกเขาที่น่าจับตามองมากสุดตอนนี้คือ แดนนี่ เฮย์นส์ หลังยิงไป 6 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาจาก บริสตอล ซิตี้ ช่วงเดือนม.ค. และ เคร็ก เดวี่ส์ คู่ขาคนใหม่ ก็คงเติมเต็มส่วนที่ขาดได้เช่นกัน

เบอร์มิงแฮม ซิตี้

ผู้จัดการทีม: คริส ฮิวจ์ตัน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 18 ใน พรีเมียร์ลีก, ตกชั้น

จุดแข็ง: พวกเขารู้วิธีเรียกฟอร์มเก่งหลังการตกชั้น เพราะสามารถเลื่อนขึ้นกลับไปได้ภายในปีเดียวที่ร่วงจาก พรีเมียร์ลีก ทั้ง 2 ครั้งล่าสุด (ฤดูกาล 2006-07 กับ 2008-09)

จุดอ่อน: มีเงินให้ใช้ซื้อนักเตะใหม่น้อยมาก จึงไม่มีนักเตะหลักมาทดแทนการจากไปของ โรเจอร์ จอห์นสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์ กับ แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น

กุญแจสำคัญ: ช่วงเวลาที่ยากลำบากในถิ่น เซนต์แอนดรูว์ส ทีมต้องการความสงบนิ่ง ซึ่งพวกเขาน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว การมีตัวเก๋าแบบกัปตันทีมอย่าง สตีเฟ่น คาร์ น่าจะช่วยได้เยอะ

แบล็คพูล

แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ย้ายมาทำหน้าที่แทน ชาร์ลี อดัม ในทีม แบล็คพูล

ผู้จัดการทีม: เอียน ฮอลโลเวย์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 19 ใน พรีเมียร์ลีก, ตกชั้น

จุดแข็ง: ฮอลโลเวย์ ยังคงเน้นการเล่นอย่างมีสปิริต ซึ่งเคยทำให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว มันคือหลักที่ช่วยให้ผ่านอุปสรรคได้เสมอ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับตัวใหม่ๆอย่าง แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทีมเวิร์คดีเหมือนเดิม

จุดอ่อน: ผู้เล่นสำคัญอย่าง ชาร์ลี อดัม, เดวิด วอห์น กับ ดีเจ แคมป์เบลล์ ย้ายออกไป พวกที่เข้ามาแทนยังต้องอาศัยเวลาอีกเยอะสำหรับการพิสูจน์ตัวเอง ว่าจะกลายเป็นแกนหลักในยุคใหม่ของทีมได้หรือเปล่า

กุญแจสำคัญ: แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ไม่ใช่ตัวแทน อดัมส์ ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็น่าจะยังคงคุณภาพในทีม และมีความเป็นผู้นำสูงเหมือนกัน

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

คาเซนก้า ลัวลัว กลับมาร่วมงานกับ ไบรท์ตัน อีกครั้ง

ผู้จัดการทีม: กุสตาโว่ โปเยต์

ฤดูกาลก่อน: แชมป์ ลีก วัน, เลื่อนชั้น

จุดแข็ง: มีการเสริมเกมรุกด้วยตัวผู้เล่นใหม่ๆที่หลากหลาย อย่าง เคร็ก แม็คเคล-สมิธ, วิลเลี่ยม บัคลี่ย์, วิลล์ ฮอสกิ้นส์ กับ คาเซนก้า ลัวลัว เพื่อมาช่วยตัวหลักคนอื่นในทีม เช่น เคร็ก นูน

จุดอ่อน: สองเซนเตอร์แบ๊ก ทอมมี่ เอลฟิค กับ อดัม เอล อับด์ พลาดการลงสนามช่วงต้นฤดูกาล และต้องการผู้เล่นที่ดีมาแทน

กุญแจสำคัญ: คาเซนก้า ลัวลัว ต้องถูกส่งคืน นิวคาสเซิ่ล ต้นสังกัดเดิม หลังขาหักเมื่อฤดูกาลก่อน ตอนนี้กลับมาอยู่ ไบรท์ตัน อีกครั้งด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน แต่เขาจะยังเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ได้ดีเหมือนตอนอยู่ ลีกวัน หรือไม่?

บริสตอล ซิตี้

ผู้จัดการทีม: คีธ มิลเลน.

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 15 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: คีธ มิลเลน ได้คุมทัพเต็มตัวเป็นฤดูกาลแรก และมีทางเลือกในแผงรุกเพิ่มขึ้น จอมพลิ้ว อัลเบิร์ต อโดมาห์ น่าจะสามารถแสดงผลงานชั้นยอดได้มากขึ้น นีล คิลเคนนี่ ก็เป็นการคว้าผู้เล่นที่ดีจาก ลีดส์

จุดอ่อน: มิลเลน คงไม่ค่อยสุขใจเท่าไหร่นักกับช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะยังต้องการผู้เล่นในแนวรับอีกหลายตำแหน่ง แถม นิคกี้ เมย์นาร์ด ยังคงไม่ต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสร

กุญแจสำคัญ: นิคกี้ เมย์นาร์ด ฟอร์มเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ถ้าเขาทำประตูได้เหมือนเคย และเซ็นสัญญาฉบับใหม่ บรรยากาศในถิ่น แอชตัน คงสดใสมากกว่าเดิม

เบิร์นลี่ย์

ผู้จัดการทีม: เอ็ดดี้ ฮาว

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 8 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: พวกเขายังสามารถเก็บผู้เล่นหลายคนที่เคยช่วยให้เลื่อนชั้นเมื่อปี 2009 เอาไว้ได้ มาร์ติน เพเตอร์สัน ซึ่งยิง 19 ประตูในฤดูกาลนั้น กลับมาฟิตอีกครั้ง และน่าจะจับคู่กับ เจย์ โรดริเกซ เพื่อช่วยกันทำสกอร์ให้มากขึ้น

จุดอ่อน: ความกดดันจากแฟนบอล ซึ่งต้องการกลับสู่พรีเมียร์ลีกอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ดูว่าความเป็นไปได้มีแค่ไหน ฤดูกาลแรกที่ เอ็ดดี้ ฮาว คุมทัพเต็มตัว ก็เป็นเพียงปีที่ 4 ในอาชีพกุนซือชองเขาเท่านั้น และมันคือบททดสอบอันยากลำบากแน่นอน

กุญแจสำคัญ: คริส แม็คคานน์ พลาดการลงสนามหลายนัดใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้กลับมาฟิต และเซ็นสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อยแล้ว เขาคือผู้เล่นชั้นยอดที่สามารถคุมเกมแดนกลางได้เป็นอย่างดี

คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้

เคนนี่ มิลเลอร์ ย้ายกลับจากตุรกี เพื่อมาเป็นกองหน้าให้ คาร์ดิฟฟ์

ผู้จัดการทีม: มัลกี้ แม็คคาย

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 4 ใน แชมเปี้ยนชิพ, ตกรอบรองฯตอนเตะเพลย์ออฟ

จุดแข็ง: แอนโธนี่ เจอร์ราร์ด เผยตอนนี้ทีมไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือเอาตัวเองเป็นหลัก เหมือนช่วงท้ายๆยุคของ เดฟ โจนส์ กุนซือคนก่อน แต่มีความสุขมากขึ้น แม้ต้องเสีย เคร็ก เบลลามี่, เจย์ โบธรอยด์, คริส เบิร์ก และ ไมเคิ่ล โชปรา ส่วนกองหน้าระดับทีมชาติอย่าง เคนนี่ มิลเลอร์ กับ โร

เบิร์ต เอิร์นชอว์ คือการเสริมทัพที่น่าพอใจ การอยู่ต่อของ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

จุดอ่อน: แบ๊กซ้ายเป็นตำแหน่งที่มีปัญหามากเมื่อฤดูกาลก่อน และตอนนี้ก็ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ แม็คคาย จะสามารถรับแรงกดดันจากแฟนบอลที่มีความคาดหวังสูง อีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกับ สวอนซี เพื่อนบ้านที่ประสบความสำเร็จไปก่อนแล้ว

กุญแจสำคัญ: เอิร์นชอว์ คือขวัญใจแฟนบอล ที่น่าจะมีโอกาสโชว์ท่าฉลองการทำประตูอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ได้เห็นกันมากขึ้นกว่าเดิม

โคเวนทรี ซิตี้

ผู้จัดการทีม: แอนดี้ ธอร์น

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 18 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: นายทวาร โจ เมอร์ฟี่ น่าจะเป็นตัวแทน คีแรน เวสต์วู้ด ที่ดี ส่วนประสบการณ์ และความสามารถในการจ่ายบอลของกัปตันทีม แซมมี่ คลิงแกน ก็ช่วยสร้างความแข็งแกร่งในแผงมิดฟิลด์ได้เสมอ

จุดอ่อน: การเสีย เวสต์วู้ด, มิดฟิลด์ไอซ์แลนด์ อารอน กุนนาร์สสัน และ ดาวยิง มาร์ลอน คิง ซึ่งย้ายออกหลังหมดสัญญาช่วงปิดฤดูกาล แถมนอกจาก เมอร์ฟี่ กับนายทวารสำรอง ก็ยังไม่มีผู้เล่นใหม่ใน ริโคห์ อารีน่า ทำให้ ธอร์น มีตัวเลือกน้อยมาก

กุญแจสำคัญ: การย้ายออกไปของ คิง ทำให้ความกดดันตกอยู่กับ ลูคัส ยุตคีวิซ อดีตหัวหอก เอฟเวอร์ตัน วัย 22 ปี เพียงลำพัง เขาแสดงให้เห็นสัญชาติญาณดาวยิงชั้นยอดช่วงท้ายฤดูกาลก่อน หากมีโชคสักหน่อย หลังชอบซัดชนเสาหรือคานบ่อยครั้ง ก็คงกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลได้ไม่ยาก

คริสตัล พาเลซ

ผู้จัดการทีม: ดูกี้ ฟรีดแมน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 20 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: ฟรีดแมน สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ทีม หลังการจากไปของ จอร์จ เบอร์ลี่ย์ ซึ่งส่งผลให้เห็นทางผลการแข่งขันที่ดีขึ้น มุมมองแง่บวก และความหวังของกุนซือคนนี้ ขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของ วิลเฟรด ซาฮา ดาวรุ่งจากทีมเยาวชน ที่สร้างชื่อในฐานะกองหน้าฝีเท้าระดับคุณภาพ

จุดอ่อน: การมีทุนน้อย ทำให้เป็นเรื่องยากลำบากในการคว้าผู้เล่นใหม่ๆ เพื่อช่วย ฟรีดแมน ซึ่งได้คุมทัพเต็มตัวฤดูกาลแรก ในการรักษาสถานะของสโมสรไม่ให้ต้องลุ้นหนีตายอีกครั้ง รวมทั้งรั้งตัวแข้งสำคัญอย่าง ดาร์เรน แอมโบรส, ฆูเลียน สเปโรนี่ และ ซาฮา ให้อยู่กันต่อไป

กุญแจสำคัญ: ฟอร์มการเล่นของ ฆูเลียน สเปโรนี่ หนึ่งในนายทวารฝีมือเยี่ยมของลีก แชมเปี้ยนชิพ คือสิ่งสำคัญ แต่เขาอาจมีฤดูกาลที่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา รออยู่เหมือนเดิม

ดาร์บี้ เคาน์ตี้

ผู้จัดการทีม: ไนเจล คลัฟ

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 19 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: แฟร้งค์ ฟีลดิ้ง นายทวารทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ย้ายมาพร้อม เจสัน แช็คเคลล์ อดีตกัปตันทีม บาร์นสลี่ย์ ซึ่งการจับคู่กับ ฌอน บาร์เกอร์ ทำให้แผงรับของ "แกะเขาเหล็ก" แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

จุดอ่อน: ขาดตัวสำรองในตำแหน่งฟูลแบ๊ก แม้มีการติดต่อขอซื้อ จอห์น ยุสเทซ ของ วัตฟอร์ด แต่ก็ยังต้องการมิดฟิลด์เชิงรับ เพื่อแทน ร็อบบี้ ซาเวจ ที่แขวนสตั๊ด บวกด้วยจอมปิดสกอร์ระดับ แชมเปี้ยนชิพ อีกสักคน เข้ามาในตำแหน่งของ คริส คอมม่อนส์

กุญแจสำคัญ: นาธาน ไทสัน ถูกถ่างออกไปเล่นทางกราบตอนอยู่ ฟอเรสต์ ทำให้ยิงประตูได้น้อยลง แต่พอมาเล่นใน ไพรด์ พาร์ค กลับโดน คลัฟ จับเล่นกองหน้าตัวเป้า และหวังว่าจะชนะใจแฟนบอลโดยเร็ว แม้จะย้ายมาจากทีมคู่อริของพวกเขาก็ตาม

ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส

ผู้จัดการทีม: ฌอน โอดริสคอลล์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 21 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: พยายามเก็บตัว บิลลี่ ชาร์ป ดาวซัลโวประจำทีม ซึ่งสามารถยิง 15 ประตู แม้จะไม่สามารถลงสนามช่วง 2 เดือนสุดท้ายของฤดูกาล เพราะผ่าไส้เลื่อน

จุดอ่อน: มีนักเตะให้ใช้งานน้อย ซึ่งทำให้พวกเขาเกือบตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน เพราะตัวหลักหลายคนเกิดมาเดี้ยงระยะยาวพร้อมกัน

กุญแจสำคัญ: เจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ บิลลี่ ชาร์ป ฟื้นตัวกลับมาจากการผ่าไส้เลื่อน และหวังทำลายสถิติที่เขาเคยยิงได้ 15 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน

ฮัลล์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม: ไนเจล เพียร์สัน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 11 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: มีกุนซือชั้นยอด เพราะประวัติการทำงานที่ดี สรรหาดาวรุ่งมาปั้นได้เก่ง และสามารถทำให้ทีมเป็นนักสู้ที่แพ้ยากมาก แม็ตตี้ ฟรายแอตต์ สามารถเป็นดาวซัลโวสูงสุด ร็อบบี้ เบรดี้ กับ เจมส์ เชสเตอร์ ก็มีสิทธิ์แจ้งเกิดในลีกได้เช่นกัน

จุดอ่อน: ฟรายแอตต์ คนเดียว อาจช่วยทำประตูให้ไม่มากพอ. ไม่มีจอมทัพตัวสร้างสรรค์เกมตรงกลางสนาม

กุญแจสำคัญ: จิมมี่ บุลลาร์ด หากสามารถปล่อยออกไปได้ นอกจากช่วยลดรายจ่าย ยังทำให้มีเงินทุนมากจะซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมเพื่อลุ้นเลื่อนชั้นได้ อีกต่างหาก ส่วนในสนาม แม็ตตี้ ฟรายแอตต์ เป็นทุกอย่างของทีม

อิปสวิช ทาวน์

ผู้จัดการทีม: พอล จีเวลล์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 13 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: การเข้ามาของสามตัวใหม่ คือ ไมเคิ่ล โชปรา, นาธาน เอลลิงตัน กับ เจย์ เอ็มมานูเอล-โธมัส น่าจะช่วยกันทำประตูให้ทีมได้มากขึ้น หลังจากที่มันเป็นปัญหาของพวกเขามานานหลายปี

จุดอ่อน: การมีนักเตะย้ายเข้ามาถึง 7 คน ทำให้ต้องอาศัยเวลาปรับตัวเพื่อให้เข้ากับทั้งระบบการเล่นของทีม และเพื่อนร่วมสังกัด นานพอสมควร

กุญแจสำคัญ: ไมเคิ่ล โชปรา คือตัวความหวังรายใหม่ของสโมสร ที่ต้องการมีผู้ยิง 20 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล หรืออย่างน้อยก็สามารถเปลี่ยนโอกาสที่มีไม่มาก ให้เป็นสกอร์ได้ เพื่อสร้างความแตกต่างในเกมที่สูสี

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม: ไซม่อน เกรย์สัน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 7 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: ฤดูกาลก่อนพวกเขาทำผลงานดี มีเกมรุกที่น่ากลัว แต่ ดาวิเด้ ซอมม่า ต้องพักยาว 7 เดือน ลูชาโน่ เบ็คคิโอ ก็เพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย ดังนั้น บิลลี่ เพย์นเตอร์ กับ รอสส์ แม็คคอร์แม็ค ขึ้นมารับบทกองหน้าตัวหลักคู่กันให้ได้ หากหวังทำสกอร์กันถล่มทลายอีกครั้ง

จุดอ่อน: แผงรับยังคงเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อฤดูกาลก่อนเคยเสียในลีกไปถึง 70 ประตู แถมการมีนักเตะจำนวนน้อย ยิ่งทำให้พวกเขาต้องลุ้นกันจนเหนื่อย ตลอดการทำศึก แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลนี้

กุญแจสำคัญ: โรเบิร์ต สน็อดแกรสส์ กับ แม็กซ์ กราเดล ถ้าปีกทั้งสองคนเข้าฟอร์ม ก็ยากจะหาใครในระดับ แชมเปี้ยนชิพ จะมาหยุดยั้งพวกเขาทั้งการจ่ายบอล หรือทำประตู

เลสเตอร์ ซิตี้

คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล ย้ายมาเฝ้าเสาให้ เลสเตอร์ ในฤดูกาลนี้

ผู้จัดการทีม: สเวน-โกรัน อีริคส์สัน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 10 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: การมีขุมกำลังแข็งแกร่ง ทำให้ อีริคส์สัน มีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น นักเตะใหม่เกือบทั้งหมดมีศักยภาพดี แค่ความสามารถส่วนตัวของซูเปอร์สตาร์แต่ละคน ก็สามารถสร้างผลงานชั้นยอดในสนามได้แล้ว

จุดอ่อน: ทุกคนมีภารกิจต่างกัน ทีมนี้มีผู้เล่นตำแหน่งละ 2 คน แต่ใช่ว่าทั้งหมดจะพอใจกับการนั่งสำรอง แถมแผงรับก็ยังทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจ เพราะฤดูกาลก่อนเสียไปถึง 71 ประตู น้อยกว่า เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ซึ่งตกชั้น เพียงแค่ 8 ลูก

กุญแจสำคัญ: แม็ตต์ มิลล์ส เซนเเตอร์แบ๊กผู้เกิดที่เมือง เลสเตอร์ ซึ่งฝีเท้าเชื่อใจได้ เขายอมทิ้งโอกาสลงเตะ พรีเมียร์ลีก กับ วูล์ฟส์ เพื่อมาเป็นกำลังหลักของ อีริคส์สัน ในศึก แชมเปี้ยนชิพ

มิดเดิ้ลส์โบรช์

ผู้จัดการทีม: โทนี่ โมว์เบรย์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 12 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: โทนี่ โมว์เบรย์ มีโอกาสคุมทัพแห่งนี้แบบเต็มตัวฤดูกาลแรก และได้อำนาจบ็ดเสร็จเด็ดขาดในทุกด้าน หลังเจอช่วงเวลายากลำบากตลอดหลายปีที่ผ่านมา การมีตำนานสโมสรอย่างเขาเป็นกุนซือ ทำให้ขวัญ และกำลังใจดีขึ้นมาก

จุดอ่อน: เสียผู้เล่นไปมากถึง 9 คนในช่วงปิดฤดูกาล เพราะปัญหาด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถซื้อใครมาเสริม ยกเว้นการเซ็นฟรี 2 ราย และยืมตัวมาอีกหนึ่ง การขาดขุมกำลังที่ดี ทำให้ทีมคงพัฒนาได้ลำบาก

กุญแจสำคัญ: รีส์ วิลเลี่ยมส์ นักเตะสารพัดตำแหน่ง คือดาวรุ่งอนาคตไกลซึ่งได้รับความสนใจจากสโมสร พรีเมียร์ลีก แต่การที่เขายังไม่ย้าย จึงกลายเป็นกำลังสำคัญของต้นสังกัด

มิลล์วอลล์

ผู้จัดการทีม: เคนนี่ แจ็คเกตต์.

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 9 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: การมีกองเชียร์ขาประจำเหนียวแน่นเวลาเฝ้าบ้าน ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับทีมเยือน ในการเอาชนะความกดดันที่ เดอะ เดน และ เคนนี่ แจ็คเกตต์.คือกุนซือฝีมือดี ที่เกือบทำให้ต้นสังกัดได้เตะเพลย์ออฟเมื่อฤดูกาลก่อน.

จุดอ่อน: เกมรุกมีปัญหาแน่ เมื่อตัดสินใจชาย สตีฟ มอริสัน ดาวยิงประจำทีม ให้กับ นอริช ไปแล้ว

กุญแจสำคัญ: ความฟิต ฟอร์มการเล่น และความเป็นผู้นำของ พอล โรบินสัน มีส่วนช่วยให้ทีมยังคงโชว์ฟอร์มเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง หลังเมื่อฤดูกาลก่อนทำผลงานน่าพอใจในการกลับมาเตะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

โจนาธาน กรีนนิ่ง กองกลางจอมเก๋าย้ายจากฟูแล่มมาปั้นเกมให้ทัพเจ้าป่า

ผู้จัดการทีม: สตีฟ แม็คคลาเรน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 6 ใน แชมเปี้ยนชิพ, ตกรอบรองฯตอนเตะเพลย์ออฟ

จุดแข็ง: เป็นทีมคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ได้สองตัวเก๋าอย่าง แอนดี้ รีด กับ โจนาธาน กรีนนิ่ง เข้ามาเสริมในช่วงปิดฤดูกาล

จุดอ่อน: ต้องใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับ สตีฟ แม็คคลาเรน ในการปรับตัวให้เข้ากับลีก แชมเปี้ยนชิพ?

กุญแจสำคัญ: เลวิส แม็คกูแกน การทำประตูจากจอมทัพรายนี้ ช่วยทำให้สโมสรคว้าสิทธิ์เตะเพลย์ออฟเมื่อฤดูกาลก่อน แล้วเขาจะสามารถโชว์ฟอร์มได้เหมือนเดิมหรือเปล่า?

ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม: ดาร์เรน เฟอร์กูสัน

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 4 ใน ลีก วัน, เลื่อนชั้นจากการเพลย์ออฟ

จุดแข็ง: บทเรียนจากที่เคยล้มเหลวกับ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในฤดูกาล 2009-10 คงกลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนให้ เฟอร์กูสัน อยากพิสูจน์ฝีมือการเป็นกุนซือในระดับ แชมเปี้ยนชิพ อีกสักครั้ง

จุดอ่อน: ปัญหาการเงินทำให้สโมสรจำต้องมีผู้เล่นประสบการณ์ในลีก แชมเปี้ยนชิพ ค่อนข้างน้อยต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาล แถม เคร็ก แม็คเคลล์-สมิธ ซึ่งยิงได้ 35 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน ก็ย้ายไป ไบรท์ตัน แล้ว

กุญแจสำคัญ: ต้องหาคนมาทำประตูแทน แม็คเคลล์-สมิธ ซึ่ง ลี ทอมลิ่น กับ เดวิด บอลล์ ควรช่วยกันให้มากที่สุด แก็บบี้ ซาคูอานี่ คือแกนหลักของแผงรับ แกร้นท์ แม็คคานน์ เป็นผู้บัญชาการในแดนกลาง

พอร์ทสมัธ

ผู้จัดการทีม: สตีฟ ค็อตเตอริลล์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 16 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: "ปอมปีย์" พร้อมพิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นทีมที่แพ้ยาก และมีสไตล์การเล่นยึดหยุ่น ภายใต้การนำของ สตีฟ ค็อตเตอริลล์ ซึ่งการดึง เกร็ก ฮัลฟอร์ด กลับมาร่วมงานแบบถาวร แถมตัวเก๋าอย่าง เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน ยอมต่อสัญญาออกไป ก็ช่วยได้มาก

จุดอ่อน: การเสีย เดวิด นูเจนท์, ทำให้ต้องพยายามรีบคว้า เดฟ คิตสัน มาแทน และ ลุค วาร์นี่ย์ ซึ่งย้ายเข้ารัง แฟร็ตตัน พาร์ค เรียบร้อยแล้ว ควรปรับตัวให้เข้ากับทีมใหม่โดยเร็วที่สุด

กุญแจสำคัญ: เดวิด นอร์ริส เป็นมิดฟิลด์ที่ ค็อตเตอริลล์ ค้นหามาหลายเดือนแล้ว จนกระทั่งได้เซ็นสัญญาร่วมงานการช่วงปิดฤดูกาล เขาคือผู้คุมทัพตรงกลาง ยามเพื่อนร่วมทีมคนอื่นขึ้นไปเดินเกมรุก เพื่อลดภาระของกัปตัน เลียม ลอว์เรนซ์

เรดดิ้ง

ผู้จัดการทีม: ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 5 ใน แชมเปี้ยนชิพ, แพ้นัดชิงฯตอนเตะเพลย์ออฟ

จุดอ่อน: พวกเขาถนัดในการปั้นนักเตะโนเนม กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมได้ทุกฤดูกาล แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่? แม็ตต์ มิลล์ส ถูกขายไปแล้ว แกนหลักคนอื่น เช่น เชน ลอง ดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรเมื่อฤดูกาลก่อน อาจย้ายตามออกไปภายในสิ้นเดือนส.ค.

กุญแจสำคัญ: หาก ลอง ย้ายออกไปอีกคน โนเอล ฮันท์ ก็ต้องรับบทผู้นำในแนวรุกแทน แม้ดาวเตะไอริชคนนี้จะมีปัญหาบาดเจ็บออดๆแอดๆเกือบตลอดเวลาที่อยู่กับสโมสร แต่ถ้าฟิตสมบูรณ์ ก็อาจมีฤดูกาลที่น่าประทับใจได้เช่นกัน

เซาธ์แฮมป์ตัน

ผู้จัดการทีม: ไนเจล แอ็ดกิ้นส์

ฤดูกาลก่อน: รองแชมป์ ลีก วัน, เลื่อนชั้น

จุดแข็ง: มีขุมกำลังครบเครื่องมากสุดแห่งหนึ่งของ ศึกแชมเปี้ยนชิพ ด้วยประสบการณ์ของนักเตะอย่าง เคลวิน เดวิส, โฮเซ่ ฟอร์เต้, ดีน แฮมม่อนด์ กับ แจ็ค คอร์ค ทำให้ไม่เป็นเรื่องยากจนเกินไปนัก หากทีมนี้จะมีลุ้นติด 3 อันดับแรก มากกว่า 3 อันดับท้ายของตาราง

จุดอ่อน: กองหน้าของพวกเขายังต้องพิสูจน์ตัวเองกับการเตะในลีกลำดับ 2 ของประเทศ เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ยกเว้น เดวิด คอนนอลลี่ย์ แต่ดาวยิงรายนี้กลับมีปัญหาเรื่องความฟิต จนทำให้ได้ลงสนามน้อยลง

กุญแจสำคัญ: อดัม ลาลลาน่า ซึ่งเพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่เมื่อ 6 เดือนก่อน หากเขาโชว์ทักษะเฉพาะตัวอันเยี่ยมยอดออกมาในศึก แชมเปี้ยนชิพ เหมือนตอนอยู่ ลีกวัน พลพรรค "นักบุญ" ก็สามารถสร้างปัญหาให้ทุกทีมได้เช่นกัน

วัตฟอร์ด

ผู้จัดการทีม: ฌอน ไดซ์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 14 ใน แชมเปี้ยนชิพ

จุดแข็ง: การถูกมองว่าจะต้องอยู่ในโซนอันตรายทุกปี ทำให้ วัตฟอร์ด เกิดแรงกระตุ้นในการสร้างผลงานให้ดีเพื่อลบคำสบประมาท ซึ่งก็เป็นผลจากการโชว์ฟอร์มอย่างน่าประทับใจของดาวรุ่งฝีเท้าชั้นยอด ซึ่งพวกเขาสามารถปั้นขึ้นมาประดับวงการได้อยู่เรื่อยๆ

จุดอ่อน: ใครจะมาแทน แดนนี่ เกรแฮม ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อนซัดไป 27 ประตู? การย้ายออกไปของกุนซือ มัลกี้ แม็คคาย พร้อมสตาฟโค้ช และนักเตะหลักบางคน ทำให้สถานภาพของสโมสรไม่มั่นคง ฌอน ไดซ์ ซึ่งขึ้นมาคุมทัพแทน มีงานหนักรออยู่แน่นอน

กุญแจสำคัญ: คริส อิเวลูโม่ เข้ามาเป็นกองหน้าแทน เกรแฮม แต่ไม่ยุติธรรมหากนำเขาไปเปรียบเทียบกับเจ้าของสถิติยิง 27 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน แต่เขาก็มีศักยภาพมากพอจะทำได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

สกอตต์ พาร์เกอร์ จอมทัพแห่งทีม "ขุนค้อน"

ผู้จัดการทีม: แซม อัลลาไดซ์

ฤดูกาลก่อน: อันดับที่ 20 ใน พรีเมียร์ลีก, ตกชั้น

จุดแข็ง: อัลลาร์ไดซ์ กุนซือคนใหม่ มีประสบการณ์มากพอจะพา "ขุนค้อน" กลับสู่ลีกสูงสุดภายในฤดูกาลเดียว แต่เขาก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้นักเตะของตัวเองเช่นกัน ซึ่งคงไม่นานนัก ไม่เช่นนั้นความกดดันจะเพิ่มขึ้นมาแทน

จุดอ่อน: ฤดูกาลก่อนพวกเขามีปัญหานอกสนามกันมากเกินไป และต่อให้แนวรุกยิงได้หลายลูก แต่แผงรับก็โดนเจาะหลายประตูเช่นกัน การตกชั้นยิ่งทำให้ต้องปรับทัพใหม่หมดอีกต่างหาก

กุญแจสำคัญ: สกอตต์ พาร์เกอร์ ซึ่งมีดีกรีมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ จะเป็นตัวแปรที่สามารถช่วยให้ เวสต์แฮม ติดกลุ่มนำของตาราง หรือได้ลุ้นเลื่อนชั้นได้เลย ตราบใดที่เขายังไม่ย้ายหนีไปไหนเสียก่อน

สมัครกับเราผ่านแบนเนอร์นี้ เหมือนสมัครกับเว็บโดยตรง
คุณจะไม่เสียค่าน้ำให้ใครทั้งสิ้น

โปรโมชั่นเดือนกันยายนนี้ สมัครครั้งแรก 1,000 รับอีก 1,000 เหมือนเดิม 

ขยายเวลาให้สำหรับแฟนบอลตัวจริง สมัครด่วน คลิ๊กที่แบนเนอร์