ด่วน! รีบเดิมพันก่อนราคาน้ำเปลี่ยนแปลง
จีเวลล์ปัดเปล่ากีดกันทางเพศหลังติไลน์แมนหญิง
พอล จีเวลล์ นายใหญ่ อิปสวิช ออกโรงแจง การที่ตนตำหนิการทำหน้าที่ของ เอมี่ เฟิร์น ไลน์แมนหญิง ที่ไม่ให้จุดโทษกับทีมของตน ในเกมที่ต้นสังกัดแพ้ เบอร์มิงแฮม 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น ไม่ได้สื่อในเชิงกีดกันทางเพศเหมือนที่หลายฝ่ายคิดกันไปเอง แต่ อลัน เลจ์ตัน เลขาสหภาพแรงงานฯ ยัน เป็นการแบ่งแยกทางเพศชัดๆ
พอล จีเวลล์ ผู้จัดการทีม อิปสวิช ทาวน์ ทีมในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ยืนยันว่า ตอนที่ตนวิจารณ์ เอมี่ เฟิร์น ผู้กำกับเส้น ที่ทำหน้าที่ในเกมลีก นัดที่ "ม้าขาว" ออกไปแพ้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-2 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมานั้น ไม่มีคำที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งแยก หรือกีดกันทางเพศ ตามที่หลายฝ่ายตีความเลย
หลังสิ้นเสียงนกหวีดของเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ อิปสวิช สุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้นมากขึ้น ด้วยการมีเพียง 20 คะแนน จากการลงเล่น 25 นัด จนรั้งอยู่ที่ 20 ของตารางคะแนนนั้น จีเวลล์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาไม่ได้ลูกจุดโทษ เพราะ เฟิร์น ไปให้คำแนะนำบางอย่างกับเชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ในเกมดังกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ให้ความเห็นในงานแถลงข่าวหลังจบเกมการแข่งขันว่า "ผมคิดว่า ทุกคน (อะ แมน (A man) ซึ่งสื่อได้ทั้งผู้ชาย หรือบุคคล) ย่อมคิดว่า มันเป็นลูกจุดโทษนะ" แล้วนั้น อดีตกุนซือ วีแกน แอธเลติก ก็ตอบกลับไปว่า "โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่เป็นเฉพาะในความคิดของผู้ชายทุกคน ไม่ใช่ในความคิดของผู้หญิง"
จากเรื่องดังกล่าว ทำให้สหภาพแรงงาน ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในเกมการแข่งขัน ออกมาวิจารณ์คำพูดของกุนซือวัย 47 ปีอย่างแรงว่า เป็นการกีดกันทางเพศ จนทำให้ จีเวลล์ เผยกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า ตนไม่ได้มีความหมายในด้านแบ่งแยกเพศชาย กับเพศหญิงเลย "ผมขอปฏิเสธถึงทุกๆ เรื่องที่พยายามบอกว่า ความคิดเห็นของผมเป็นคำพูดเชิงกีดกันทางเพศ"
"ประโยคที่นักข่าวเป็นคนเปิดประเด็นในช่วงเริ่มของงานแถลงข่าว คือ -ผมคิดว่า ในความคิดของทุกคนมันเป็นจุดโทษนะ- ผมก็เลยตอบกลับไปว่า -แต่ไม่ใช่ในความคิดของผู้หญิงนี่- ซึ่งมันหมายถึงผู้กำกับเส้นที่อยู่ตรงฝั่งนั้น ที่ไม่ได้ตัดสินให้มันเป็นจุดโทษ"
"ผมไม่ได้พยายามสื่อเชิงเป็นนัยเลยว่า ผู้กำกับเส้นคนนั้นทำพลาดเพราะเป็นผู้หญิง ผมไม่คิดว่า สิ่งที่ผมพูดออกไปเป็นการกีดกันทางเพศเลย และถ้าใครบอกว่า มันเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ ผมก็พร้อมที่จะโต้เถียงกับเขาทั้งวันแน่นอน" นายใหญ่แห่งถิ่น พอร์ตแมน โร้ด ระบุ โดยเจ้าตัวเสริมว่า ตนไม่น่าจะโดนดำเนินความผิดทางวินัยจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) จากเรื่องนี้ แต่ถ้าหากถูกตั้งข้อหาจริง ตนก็พร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่แน่
อย่างไรก็ตาม อลัน เลจ์ตัน เลขานุการของสหภาพฯ ในประเทศอังกฤษ ยืนยันว่า จีเวลล์ ทำผิดพลาดที่ไปเอ่ยถึงเพศของ เฟิร์น พร้อมยืนกรานว่า เป็นการแบ่งแยกทางเพศแน่นอน "เห็นได้ชัดว่า ความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการกีดกันทางเพศ และเรื่องอย่างนี้ไม่สมควรมีอยู่ในวงการฟุตบอล"
"คำพูดแบบนั้นเป็นการกีดกันทางเพศ เพราะเขายึดเรื่องเพศของเธอเป็นหลัก มากกว่าการทำหน้าที่ในฐานะผู้กำกับเส้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้าเธอเป็นผู้ชายแล้วล่ะก็ มันคงไม่มีความคิดเห็นในเชิงที่เกี่ยวกับทางเพศของแต่ละคนแน่" เลขานุการคนดังกล่าว เผย
ลีซบนักบุญฉลุยหลังได้รับอนุมัติเวิร์คเพอร์มิต
ทาดานาริ ลี หัวหอกทีมชาติญี่ปุ่น ได้ย้ายไปร่วมค้าแข้งกับ เซาธ์แฮมป์ตัน สโมสรแห่งศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ อย่างสมบูรณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าตัวได้อนุมัติเวิร์คเพอร์มิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางการเมืองผู้ดีให้เหตุผลว่า ศูนย์หน้าเชื้อสายเกาหลีน่าจะมีศักยภาพที่จะมายกระดับคุณภาพของเกมฟุตบอลได้ แม้ว่าจะเพิ่งเคยลงรับใช้ทัพ "บลู ซามูไร" ไปเพียง 9 นัดก็ตาม
"นัก บุญ" มีเป้าหมายในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ศึกพรีเมียร์ลีก ให้ได้ในซีซั่นหน้า แต่กลับฟอร์มตกลงไปในช่วงหลัง เมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะในลีกไปได้เพียงเกมเดียวจากการลงสนาม 6 นัดล่าสุด
ทั้ง นี้ ลี วัย 26 ปี ซึ่งทำผลงานยิง 15 ประตู จากการลงเล่น 32 นัด ให้กับ ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิมา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลายเป็นนักเตะชื่อดังภายในชั่วข้ามคืน หลังจากเป็นผู้ยิงประตูชัยพาทัพแข้งแดนปลาดิบ คว้าแชมป์ศึก เอเชียน คัพ 2011 ด้วยการเฉือนชนะ ออสเตรเลีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ขุนค้อนดึงหอกญี่ปุ่นเทสต์แข้ง
"ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดึง เรียวอิชิ มาเอดะ ดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่น มาเทสต์แข้งเป็นเวลา 5 วัน แต่สื่อชี้ยังไม่ชัวร์เรื่องสโมสรอยากได้เจ้าตัวมาร่วมทัพ
"นิปปอน สปอร์ตส์" สื่อกีฬาแดนซามูไร รายงานข่าว เมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมาว่า เรียวอิชิ มาเอดะ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นของ จูบิโล่ อิวาตะ สโมสรดังในศึกเจ-ลีก ได้เดินทางมาทดสอบฝีเท้ากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เป็นเวลา 5 วัน เนื่องจาก แซม อัลลาไดซ์ ผู้จัดการทีม "ขุนค้อน" กำลังมองหากำลังเสริมในแนวรุก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า มาเอดะ เดินทางมาเทสต์แข้งกับ เวสต์แฮม แบบระยะสั้นเท่านั้น เพราะ มานูชิ โยชิโนะ ประธานสโมสร จูบิโล่ แย้มว่า ดาวยิงวัย 30 ปี จะต้องเดินทางกลับมารายงานตัวที่สโมสรในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคมนี้
"มาเอดะ จะมารายงานตัวที่สโมสรในวันที่ 15 มกราคม เพื่อเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า" โยชิโนะ กล่าว โดย มาเอดะ เล่นให้กับ จูบิโล่ ทีมเดียวมาตลอดชีวิต ซึ่งฝากผลงาน 115 ประตู จากการลงเตะเกมลีก 260 นัด ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีก 2 สมัย จาก 3 ปีล่าสุดเลยทีเดียว
ตามรายงานจากอังกฤษ ระบุว่า "บิ๊กแซม" หวังที่จะได้ตัว มาเอดะ มาร่วมก๊วน หลังแสดงความสนใจในตัวดาวเตะรายนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีก่อนแล้ว แต่ล่าสุด "โกล์ดอตคอม" เว็บไซต์กีฬาฟุตบอลยอดนิยม รายงานว่า เวสต์แฮม ยังคงเงียบกับประเด็นดังกล่าว
ดาร์เรนเซ็งพลาดตัวแม็คคลีนช่วงซัมเมอร์
ดาร์เรน เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีเตอร์โบโร่ เผย สุดเซ็งที่ชวดได้ตัว เจมส์ แม็คคลีน มิดฟิลด์ ซันเดอร์แลนด์ มาร่วมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนสุดท้ายต้องโดนแข้งรายดังกล่าวมาตอกย้ำทำประตู จนส่งผลให้ทีมของตนพ่าย "แมวดำ" 0-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด ทีมระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ กล่าวว่า รู้สึกเสียดายเหลือเกิน ที่ไม่ได้เซ็นสัญญากับ เจมส์ แม็คคลีน มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวไอร์แลนด์เหนือ เมื่อก่อนหน้านี้ จนโดนแข้งรายดังกล่าวบุกมาช่วยทำให้ทีมของตนต้องแพ้ ซันเดอร์แลนด์ คารัง ลอนดอน โร้ด 0-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา
เซบาสเตียน ลาร์สสัน ช่วยให้ทีมของ มาร์ติน โอนีล ขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 48 ก่อนที่ แม็คคลีน จะมาตอกฝาโลงในอีก 10 นาทีต่อมา จนจบลงที่ความปราชัยของเจ้าถิ่น 0-2 ซึ่งเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม็คคลีน ที่ตอนนั้นอยู่กับ เดอร์รี่ ซิตี้ ทีมในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เคยเจรจากับ ปีเตอร์โบโร่ แล้ว แต่เป็น สตีฟ บรูซ อดีตกุนซือ ซันเดอร์แลนด์ ที่ฉกแข้งรายดังกล่าวไปร่วมถิ่น สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ในที่สุด
"เขาเป็นใครบางคนที่ใช่ เราเฝ้ามองเขาหลายครั้งตั้งแต่อยู่ที่ไอร์แลนด์ แล้ว แต่ทีมใหญ่อย่าง ซันเดอร์แลนด์ เข้ามาร่วมเจรจา และนั่นก็เป็นตัวเลือกของเขา ผมคิดว่า เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ดีได้แน่ ซึ่งเราโชคไม่ดีเลยที่พลาดได้เขามาร่วมทัพ" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ระบุ
นักบุญยันกำลังถกหอกยุ่นหวังดึงมาเสริมคม
เซาธ์แฮมป์ตัน จ่อได้ตัว ทาดานาริ ลี ดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่น มาไล่ล่าตาข่ายให้ในไม่ช้า โดยมีการคุยเบื้องต้นไปแล้วเมื่อวันอังคาร และถ้าทางการอังกฤษอนุมัติใบอนุญาตทำงานให้นักเตะวัย 26 ปีรายนี้ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแข้งเลือดบูชิโดคนแรกของ "นักบุญ" ทันที
เซาธ์แฮมป์ตัน จ่าฝูง เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แถลงการณ์ เมื่อวันพุธที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมาว่า ได้เปิดการเจรจากับ ทาดานาริ ลี หัวหอกทีมชาติญี่ปุ่น แล้ว โดยหากการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศอังกฤษ (เวิร์ก เพอร์มิต) ผ่าน นักเตะรายนี้ก็จะได้มาเป็นแข้งเลือดซามูไรคนแรกของทัพ "นักบุญ" เลยทีเดียว
ดาวเตะวัย 26 ปี ยิงประตูได้เท่ากับอายุของตัวเองในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ให้ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ต้นสังกัดในศึกเจ-ลีก จนทำให้ถูกเชื่อมโยงว่า อาจย้ายมาสวมเครื่องแบบ "นักบุญ" ตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้ โดยศูนย์หน้าที่ติดธง "ซามูไรสีน้ำเงิน" ไปแล้ว 10 นัด เดินทางมาเจรจาเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ในการร่วมงานกับทีมลูกหนังอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ได้ลงซ้อมที่สนามซ้อม สเตเปิ้ลวู้ด ไปแล้วด้วย
เซาธ์แฮมป์ตัน จ่าฝูง เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แถลงการณ์ เมื่อวันพุธที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมาว่า ได้เปิดการเจรจากับ ทาดานาริ ลี หัวหอกทีมชาติญี่ปุ่น แล้ว โดยหากการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศอังกฤษ (เวิร์ก เพอร์มิต) ผ่าน นักเตะรายนี้ก็จะได้มาเป็นแข้งเลือดซามูไรคนแรกของทัพ "นักบุญ" เลยทีเดียว
ดาวเตะวัย 26 ปี ยิงประตูได้เท่ากับอายุของตัวเองในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ให้ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ต้นสังกัดในศึกเจ-ลีก จนทำให้ถูกเชื่อมโยงว่า อาจย้ายมาสวมเครื่องแบบ "นักบุญ" ตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้ โดยศูนย์หน้าที่ติดธง "ซามูไรสีน้ำเงิน" ไปแล้ว 10 นัด เดินทางมาเจรจาเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ในการร่วมงานกับทีมลูกหนังอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ได้ลงซ้อมที่สนามซ้อม สเตเปิ้ลวู้ด ไปแล้วด้วย
บริสตอลซิวหืด!เบียดมิลล์วอลล์ทีมเยือน1-0
บริสตอล ซิตี้ เปิดบ้านเบียดชัยเหนือ มิลล์วอลล์ ทีมเยือนแบบหืดจับ 1-0 รับสามแต้มงามๆ ในศึกฟุตบอล เดอะแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : แอชตัน เกต
บริสตอล ซิตี้ ที่มีสถิติการเล่นในบ้านชนะแค่ 2 จาก 11 นัด ในลีกแชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นนี้ เปิดบ้านพบ มิลล์วอลล์ ทีมที่เล่นนอกถิ่นได้แย่ เมื่อชนะเกมเดียวจาก 11 แมตช์
ดีเร็ค แม็คอินเนส กุนซือบริสตอล ซิตี้ ขาด เลียม ฟอนเตน กองหลังกัปตันทีมบาดเจ็บหัวเข่า พักจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทำให้ หลุยส์ แครี่ย์ ลงเล่นแทน ส่วนมิลล์วอลล์ ไม่มี ดาริอุส เฮนเดอร์สัน ดาวซัลโวสูงสุดของทีม 9 ประตู บาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าพัก 2 สัปดาห์ ซึ่งเกมนี้ทีมมี เลียม ทร็อตเตอร์, จอช ไรท์ เป็นแกนหลัก
เกมครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 4 เจ้าถิ่นบุกได้น่ากลัว โคล สคูส เปิดบอลให้ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ยิงเท้าขวาระยะเผาขนติด สตีฟ มิลเดนฮอลล์ นายทวารปัดบอลออกเส้นหลังได้เยี่ยม
แต่แล้วนาที 12 บริสตอล ซิตี้เปลี่ยนเอา มาร์วิน เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง คาลิฟา ซิสเซ่ ลงเล่นแทน
นาที 19 เลียม ฟีนี่ย์ กองกลางทีมเยือนโยนบอลให้ อาเมอร์ บูอัซซ่า ซัลโวเท้าซ้ายเข้าข้างประตู และนาที 37 สตีเฟ่น เพียร์สัน สตาร์บริสตอล ซิตี้ได้บอลหลุดเข้าไปยิงเท้าซ้ายหน้าประตู บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนปรับแผนมาเน้นรุกมากขึ้นและทำได้ดี นาทีที่ 59 แจ็ค สมิธ แข้งมิลล์วอลล์ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษเฉี่ยวคานนิดเดียว
นาทีที่ 69ทีมเยือนอาศัยลูกสวนกลับ แจ็ค สมิธ ได้ตะบันเต็มแรงด้วยขวาระยะไกล แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบอีก
นาทีที่ 90เจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ อโดมาห์ โยนยาวถึง เพียร์สัน โขกตั้งให้ นิคกี้ เมย์นาร์ด ซัดระยะ 6 หลาด้วยซ้ายตุงตาข่าย จบเกม บริสตอล ซิตี้ เฉือนชนะ 1-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บริสตอล ซิตี้ : เดวิด เจมส์ - หลุยส์ แครี่ย์, โคล สคูส, เลวิน เอ็นยาตังก้า, ไรอัน แม็คกิฟเวิร์น - อัลเบิร์ต อโดมาห์, มาร์วิน เอลเลียตต์ (คาลิฟา ซิสเซ่ น.12, เดวิด คล้าร์กสัน น.83), นีล คิลเคนนี่, สตีเฟ่น เพียร์สัน - เบร็ตต์ พิตแมน (ยันนิก โบลาซี่ น.76), นิคกี้ เมย์นาร์ด
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ดีน เกอร์เค่น (ผู้รักษาประตู), เจมส์ วิลสัน
ใบเหลือง : โคล สคูส น.42
มิลล์วอลล์ : สตีฟ มิลเดนฮอลล์ - อลัน ดันน์, พอล โรบินสัน, เชน โลว์รี่, โทนี่ เคร็ก - เลียม ฟีนี่ย์, เลียม ทร็อตเตอร์, แจ็ค สมิธ (จอห์น มาร์กิส น.90), จอช ไรท์ (น้าดจิม อับดู น.67) - อาเมอร์ บูอัซซ่า, แฮร์รี่ เคน (ดาริอุส เฮนเดอร์สัน น.85)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : เดวิด ฟอร์ด (ผู้รักษาประตู), เจมส์ เฮนรี่
ใบเหลือง : แจ็ค สมิธ น.60
ผู้ตัดสิน : ดาร์เรน ดริย์สเดล
ฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ วันอังคารที่ 3 มกราคม 2555
บริสตอล ซิตี้ 1 - 0 มิลล์วอลล์
บริสตอล ซิตี้ 1 - 0 มิลล์วอลล์
สนาม : แอชตัน เกต
บริสตอล ซิตี้ ที่มีสถิติการเล่นในบ้านชนะแค่ 2 จาก 11 นัด ในลีกแชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นนี้ เปิดบ้านพบ มิลล์วอลล์ ทีมที่เล่นนอกถิ่นได้แย่ เมื่อชนะเกมเดียวจาก 11 แมตช์
ดีเร็ค แม็คอินเนส กุนซือบริสตอล ซิตี้ ขาด เลียม ฟอนเตน กองหลังกัปตันทีมบาดเจ็บหัวเข่า พักจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทำให้ หลุยส์ แครี่ย์ ลงเล่นแทน ส่วนมิลล์วอลล์ ไม่มี ดาริอุส เฮนเดอร์สัน ดาวซัลโวสูงสุดของทีม 9 ประตู บาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าพัก 2 สัปดาห์ ซึ่งเกมนี้ทีมมี เลียม ทร็อตเตอร์, จอช ไรท์ เป็นแกนหลัก
เกมครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 4 เจ้าถิ่นบุกได้น่ากลัว โคล สคูส เปิดบอลให้ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ยิงเท้าขวาระยะเผาขนติด สตีฟ มิลเดนฮอลล์ นายทวารปัดบอลออกเส้นหลังได้เยี่ยม
แต่แล้วนาที 12 บริสตอล ซิตี้เปลี่ยนเอา มาร์วิน เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง คาลิฟา ซิสเซ่ ลงเล่นแทน
นาที 19 เลียม ฟีนี่ย์ กองกลางทีมเยือนโยนบอลให้ อาเมอร์ บูอัซซ่า ซัลโวเท้าซ้ายเข้าข้างประตู และนาที 37 สตีเฟ่น เพียร์สัน สตาร์บริสตอล ซิตี้ได้บอลหลุดเข้าไปยิงเท้าซ้ายหน้าประตู บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนปรับแผนมาเน้นรุกมากขึ้นและทำได้ดี นาทีที่ 59 แจ็ค สมิธ แข้งมิลล์วอลล์ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษเฉี่ยวคานนิดเดียว
นาทีที่ 69ทีมเยือนอาศัยลูกสวนกลับ แจ็ค สมิธ ได้ตะบันเต็มแรงด้วยขวาระยะไกล แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบอีก
นาทีที่ 90เจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ อโดมาห์ โยนยาวถึง เพียร์สัน โขกตั้งให้ นิคกี้ เมย์นาร์ด ซัดระยะ 6 หลาด้วยซ้ายตุงตาข่าย จบเกม บริสตอล ซิตี้ เฉือนชนะ 1-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บริสตอล ซิตี้ : เดวิด เจมส์ - หลุยส์ แครี่ย์, โคล สคูส, เลวิน เอ็นยาตังก้า, ไรอัน แม็คกิฟเวิร์น - อัลเบิร์ต อโดมาห์, มาร์วิน เอลเลียตต์ (คาลิฟา ซิสเซ่ น.12, เดวิด คล้าร์กสัน น.83), นีล คิลเคนนี่, สตีเฟ่น เพียร์สัน - เบร็ตต์ พิตแมน (ยันนิก โบลาซี่ น.76), นิคกี้ เมย์นาร์ด
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ดีน เกอร์เค่น (ผู้รักษาประตู), เจมส์ วิลสัน
ใบเหลือง : โคล สคูส น.42
มิลล์วอลล์ : สตีฟ มิลเดนฮอลล์ - อลัน ดันน์, พอล โรบินสัน, เชน โลว์รี่, โทนี่ เคร็ก - เลียม ฟีนี่ย์, เลียม ทร็อตเตอร์, แจ็ค สมิธ (จอห์น มาร์กิส น.90), จอช ไรท์ (น้าดจิม อับดู น.67) - อาเมอร์ บูอัซซ่า, แฮร์รี่ เคน (ดาริอุส เฮนเดอร์สัน น.85)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : เดวิด ฟอร์ด (ผู้รักษาประตู), เจมส์ เฮนรี่
ใบเหลือง : แจ็ค สมิธ น.60
ผู้ตัดสิน : ดาร์เรน ดริย์สเดล
จวกแฟนบาร์นสลี่ย์ขุดลูกตายมาล้อหอกดอนคาสเตอร์
คนเราใจบาปหยาบช้ามากขึ้นทุกวัน แค่คิดเห็นหรือชอบอะไรไม่ตรงกัน ก็ขุดเรื่องราวสารพัดขึ้นมาเล่นงาน อย่างไร้คุณธรรม ศึกลูกหนัง แชมเปี้ยนชิพ เกิดรอยด่างพร้อยไม่คาดฝัน หลังมีเหตุสาวก บาร์นสลี่ย์ บางคน ทำตัวโคตรถ่อย เอาเรื่องลูกแรกเกิดตายมาร้องเพลงล้อเลียน บิลลี่ ชาร์ป หัวหอก ดอนคาสเตอร์ หน้าตาเฉย บอสใหญ่ "เจ้าตูบ" รีบแก้ข่าวพัลวันไม่เห็นได้ยินเลย แต่รับปากหากมีจริงเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่ๆ
แฟนบอล บาร์นสลี่ย์ ทำเรื่องงามหน้าเสียแล้ว เมื่อโดนกล่าวหาว่า ตะโกนถ้อยคำน่ารังเกียจล้อเลียนการ
เสียชีวิตของลูกน้อยที่เพิ่งคลอดของ บิลลี่ ชาร์ป กองหน้า ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ในระหว่างการลงสนามทำศึก เดอะ
แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ที่สนามคีปโมท สเตเดี้ยม ซึ่งลงเอยด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน ดอนคาสเตอร์ 2-0
เรื่อง ราวการซ้ำเติม ลูอี้ จาค็อบ ลูกชายของ ชาร์ป กับ เจด แฟนสาว ที่ลืมตามาดูโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่กลับโชคร้ายเสียชีวิตเพียงแค่ 2 วันหลังจากนั้น ได้รับการเผยแพร่ใน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ หลังจบเกมนัดดังกล่าว โดยมีการระบุว่า สาวกทีมเยือนแสดงสันดานหยาบด้วยการร้องเพลงล้อเลียนการตายของทารกน้อย
หัวหอกวัย 25 ปี ซึ่งอุทิศประตูให้ลูกชายผู้ล่วงลับ 3 วันหลังการเสียชีวิตในเกมลีกที่แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ คารัง
1-3 และเคยลงเล่นให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คู่ปรับของ บาร์นสลี่ย์ มาก่อนนั้น ทวีตข้อความด้วยตัวเองว่า ตนไม่ได้ยินเพลงอะไรในทำนองนั้นเลย แต่ไม่วายบอกด้วยว่า หากข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องจริงแล้ว ใครก็ตามที่กระทำการเยี่ยงนี้ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องละอายใจกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้ มีแฟนบอลคนหนึ่งทวีตข้อความว่า "ผมหวังว่า แฟนๆ บาร์นสลี่ย์ จะละอายใจบ้างกับพฤติกรรม
น่ารังเกียจที่กระทำต่อ บิลลี่ ชาร์ป ในวันนี้..." ขณะที่อีกคนหนึ่งส่งข้อความเข้ามาว่า "แฟนบอล บาร์นสลี่ย์ บางคนทำตัว
น่า เกลียด พวกเขาร้องตะโกนถ้อยคำทุเรศๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายของอดีตนักเตะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บิลลี่ ชาร์ป มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ!"
แฟนบอล บาร์นสลี่ย์ ทำเรื่องงามหน้าเสียแล้ว เมื่อโดนกล่าวหาว่า ตะโกนถ้อยคำน่ารังเกียจล้อเลียนการ
เสียชีวิตของลูกน้อยที่เพิ่งคลอดของ บิลลี่ ชาร์ป กองหน้า ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ในระหว่างการลงสนามทำศึก เดอะ
แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ที่สนามคีปโมท สเตเดี้ยม ซึ่งลงเอยด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน ดอนคาสเตอร์ 2-0
เรื่อง ราวการซ้ำเติม ลูอี้ จาค็อบ ลูกชายของ ชาร์ป กับ เจด แฟนสาว ที่ลืมตามาดูโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่กลับโชคร้ายเสียชีวิตเพียงแค่ 2 วันหลังจากนั้น ได้รับการเผยแพร่ใน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ หลังจบเกมนัดดังกล่าว โดยมีการระบุว่า สาวกทีมเยือนแสดงสันดานหยาบด้วยการร้องเพลงล้อเลียนการตายของทารกน้อย
หัวหอกวัย 25 ปี ซึ่งอุทิศประตูให้ลูกชายผู้ล่วงลับ 3 วันหลังการเสียชีวิตในเกมลีกที่แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ คารัง
1-3 และเคยลงเล่นให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คู่ปรับของ บาร์นสลี่ย์ มาก่อนนั้น ทวีตข้อความด้วยตัวเองว่า ตนไม่ได้ยินเพลงอะไรในทำนองนั้นเลย แต่ไม่วายบอกด้วยว่า หากข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องจริงแล้ว ใครก็ตามที่กระทำการเยี่ยงนี้ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องละอายใจกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้ มีแฟนบอลคนหนึ่งทวีตข้อความว่า "ผมหวังว่า แฟนๆ บาร์นสลี่ย์ จะละอายใจบ้างกับพฤติกรรม
น่ารังเกียจที่กระทำต่อ บิลลี่ ชาร์ป ในวันนี้..." ขณะที่อีกคนหนึ่งส่งข้อความเข้ามาว่า "แฟนบอล บาร์นสลี่ย์ บางคนทำตัว
น่า เกลียด พวกเขาร้องตะโกนถ้อยคำทุเรศๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายของอดีตนักเตะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บิลลี่ ชาร์ป มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ!"
ด้านแฟนบอลคนหนึ่งของ "เจ้าตูบ" ยืนยันในเว็บบอร์ดกองเชียร์ของทีมแห่งหนึ่งว่า มีเพลงๆ หนึ่งพูดถึง ชาร์ป โดยตรง แต่มีแค่เพียงวัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ลงโทษห้ามวัยรุ่นคนดังกล่าวเข้ามาชมเกมลูกหนังอีกต่อไป เพราะไม่สมควรจะเป็นแฟนบอลของ บาร์นสลี่ย์ เลยจริงๆ
อย่าง ไรก็ตาม ดอน โรวิ่ง ประธานบริหาร บาร์นสลี่ย์ ประกาศว่า "ผมไม่ได้ยินใครร้องเพลงอะไรที่ไม่เป็นการเคารพต่อ บิลลี่ ชาร์ป เลย ถ้าหากมีการพิสูจน์ในภายหลังได้ว่า มีใครบางคนตะโกนถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมออกมาจริงๆ แล้ว เราก็จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป"
0 comments:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !